เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2563 บุคคลต่าง ๆ รวมทั้งนักศึกษามหาวิทยาลัยจำนวนมาก เข้าร่วมในการชุมนุมอย่างสงบที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยที่กรุงเทพฯ เมืองหลวงของประเทศไทย เป็นการชุมนุมที่จัดโดยกลุ่มเยาวชนปลดแอก ที่มีแกนนำเป็นนักศึกษา มีผู้เข้าร่วมชุมนุมประมาณ 2,400 คน พวกเขามีข้อเสนอสามข้อต่อรัฐบาล ได้แก่ ยุบสภาและจัดการเลือกตั้งใหม่ ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ และยุติการคุกคามประชาชน
นักกิจกรรมแต่ละคนอาจได้รับโทษจำคุกสูงสุดเจ็ดปี หากศาลตัดสินว่ามีความผิด ทั้งหมดถูกดำเนินคดีในข้อหายุยงปลุกปั่น ก่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน มั่วสุมกันใช้กำลังประทุษร้าย ขัดคําสั่งเจ้าพนักงาน ร่วมกันกีดขวางทางสาธารณะ และใช้กำลังทำร้ายผู้อื่น โดยไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116, 215, 368, 385, และ 391ตามลำดับ ละเมิดพระราชกำหนดในสถานการณ์ฉุกเฉิน ความผิดตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ ร่วมกันกีดขวางทางสาธารณะเป็นความผิดตามมาตรา 114 พระราชบัญญัติจราจรทางบก มาตรา 19 พระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง และร่วมกันใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นความผิดตามมาตรา 4 ของพระราชบัญญัติควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง
15 จาก 31 คนถูกออกหมายจับ โดยจนถึงปัจจุบัน มีการจับกุมนักกิจกรรม 13 จาก 15 คน ซึ่งต่างได้รับการประกันตัวออกไปด้วยวงเงินคนละ 100,000 บาท หรือมีการใช้ตำแหน่งนักวิชาการ หรือสมาชิกรัฐสภาเพื่อประกันตัวออกไป ส่วนอีกสองคนเสี่ยงจะถูกจับกุม ผู้ประท้วงอีก 16 คนถูกดำเนินคดีในข้อหาเดียวกัน และมีกำหนดเข้ารายงานตัวต่อพนักงานสอบสวน สน.สำราญราษฎร์ที่กรุงเทพฯ ในวันที่ 28 สิงหาคม 2563
หนึ่งในผู้ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 7 สิงหาคมได้แก่ ทนายอานนท์ นำภา โดยเขาถูกจับอีกครั้งโดยตำรวจสน.ชนะสงคราม เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม เนื่องจากการเข้าร่วมการชุมนุมที่มีการแต่งกายแบบแฮรี่พอตเตอร์ที่กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม และทนายอานนท์ได้ปราศรัยเรียกร้องให้มีการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ของไทย ต่อมาศาลให้ประกันตัวโดยกำหนดเงื่อนไขไม่ให้กระทำความผิดซ้ำ ต่อมาตำรวจได้จับกุมภานุพงศ์ จาดนอก (ไมค์) และทนายอานนท์อีกครั้งในวันที่ 24 และ 25 สิงหาคมตามลำดับ เนื่องจากการเข้าร่วมการชุมนุมประท้วงอีกครั้งที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต จังหวัดปทุมธานี เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม ซึ่งในคดีนี้ ทั้งคู่ถูกตั้งข้อหาร้ายแรงรวมทั้งยุยงปลุกปั่นและนำเข้าข้อมูลสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นข้อมูลที่เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงแห่งชาติ
นับแต่การประกาศใช้มาตรการเข้มงวดตามพระราชกำหนดในสถานการณ์ฉุกเฉิน เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2563 เพื่อรับมือกับการระบาดของโควิด-19 ประชาชนหลายหมื่นคนรวมทั้งนักศึกษามหาวิทยาลัยและนักเรียนมัธยม ได้เข้าร่วมการชุมนุมเพื่อแสดงข้อเรียกร้องเกี่ยวกับประเด็นทางสังคมและการเมือง นอกจากข้อเรียกร้องหลักทั้งสามข้อจากที่ชุมนุมเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคมแล้ว ผู้ชุมนุมหลายคนเรียกร้องให้ปฏิรูปการศึกษา ความเท่าเทียมระหว่างเพศ สิทธิทางเพศและอนามัยเจริญพันธุ์ นำตัวผู้กระทำผิดในการบังคับบุคคลให้สูญหายมาลงโทษ รวมทั้งประเด็นอื่น ๆ หลังจากพระราชกำหนดในสถานการณ์ฉุกเฉินมีผลบังคับใช้ ทางการได้เพิ่มการควบคุมตัวและการดำเนินคดีอาญาต่อบุคคลที่เข้าร่วมในการชุมนุมและกิจกรรมอย่างสงบ มีรายงานว่าผู้ประท้วงตกเป็นเป้าการคุกคามและข่มขู่โดยเจ้าหน้าที่ในท้องถิ่นมากขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เพียงเพราะมีส่วนร่วมในการชุมนุมอย่างสงบ
ภาษาที่ควรใช้เขียนถึงกลุ่มเป้าหมาย: อังกฤษ ไทย หรือภาษาของท่านเอง
กรุณาปฏิบัติการโดยเร็วสุด ก่อนวันที่: 21 ตุลาคม 2563
กรุณาตรวจสอบกับสำนักงานแอมเนสตี้ในประเทศของท่าน หากส่งจดหมายหลังวันที่กำหนด
ชื่อและสรรพนามที่ควรใช้: [ใส่ชื่อ] (สรรพนามที่ควรใช้) นายอานนท์ นำภา (เขา) นายบารมี ชัยรัตน์ (เขา) นายชลธิศ โชติสวัสดิ์ (เขา) นายเดชาธร บํารุงเมือง (เขา) นายจักรธร ดาวแย้ม (เขา) นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา (เขา) นางสาวจิรฐิตา ธรรมรักษ์ (เธอ) นางสาวจุฑาทิพย์ ศิริขันธ์ (เธอ) นายกานต์นิธิ ลิ้มเจริญ (เขา) นายกรกช แสงเย็นพันธ์ (เขา) นายกฤษณะ ไก่แก้ว
(เขา) นางสาวลัลนา สุริโย (เธอ) นายณวรรษ เลี้ยงวัฒนา (เขา) นายณัฐพงษ์ ภูแก้ว (เขา) นายณัฐวุฒิ สมบูรณ์ทรัพย์ (เขา)นางสาวเนตรนภา อํานาจส่งเสริม (เธอ) นางสาวปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล (เธอ) นายภานุมาศ สิงห์พรม (เขา) นายภาณุพงศ์ จาดนอก (เขา) นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ (เขา) นางสาวพิมพ์สิริ เพชรน้ำรอบ (เธอ) นายปรัชญา สุรกําจรโรจน์ (เขา) นางสาวสิรินทร์ มุ่งเจริญ (เธอ) นางสุวรรณา ศาลเหล็ก (เธอ) นายทักษกร มุสิกรักษ์ (เขา) นายทัตเทพ เรื่องประไพกิจเสรี (เขา) นายธนชัย เอื้อชา (เขา) นายธนายุทธ ณ อยุธยา (เขา) นายธานี สะสม (เขา) นายทศพร สินสมบุญ (เขา) นายยามารุดดิน ทรงศิริ (เขา)